สินค้าตอบโจทย์ผู้บริโภค
การแพร่ระบาดในครั้งนี้ทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการสินค้าที่ช่วยดูแลด้านสุขอนามัย ดังนั้น ในฐานะที่ โอสถสภาเป็นผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างเร่งด่วน เพื่อตอบสนอง ความต้องการของผู้บริโภคให้ได้เร็วที่สุด เช่น ผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ล้างมือภายใต้แบรนด์ โอเล่ ที่มีแอลกอฮอล์ 70% ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถทำความสะอาดมือ และพกพาออกไปข้างนอกได้อย่างสะดวก รวมถึง ผลิตภัณฑ์เบบี้มายด์ แนชเชอรัล แฮนด์ ซานิไทเซอร์ เจล ก็มีแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือสำหรับคุณแม่และลูกน้อย
โอสถสภายังสร้างแคมเปญ “แต้มเอ็มส่งพลังฮึดสู้ เคียงข้างคนไทยร่วมสู้โควิด-19” โดยแบรนด์เอ็ม-150 เปิดโอกาสให้นำคะแนนสะสมแต้มเอ็มมาแลกประกันโควิด-19 ความคุ้มครองสูง 100,000 บาท หรือร่วมส่งพลังฮึดสู้ให้ บุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศด้วยการนำแต้มเอ็มมาเปลี่ยนเป็นเงินบริจาคให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ เพื่อร่วมส่ง กำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ทุกคน
นำโซลูชั่นเสริมซัพพลายเชน
ในส่วนของผู้ถือหุ้นนั้น โอสถสภายึดถือความปลอดภัยของผู้ถือหุ้นทุกคน จึงเลื่อนการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 จากวันที่ 29 เมษายน 2563 ออกไป จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม บริษัทได้เผยแพร่ รายงานผลประกอบการประจำปี 2562 ตามเวลาที่กำหนด และยังคงยืนยันจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการ ดำเนินงานปี 2562 ในวันที่ 24 เมษายน 2563 ในอัตรา 0.65 บาท/ หุ้น ตามที่บริษัทฯได้แจ้งต่อผู้ถือหุ้นผ่านตลาดหลัก ทรัพย์แห่งประเทศไทยก่อนหน้า
“ทางบริษัทยังได้นำโซลูชั่นชั้นนำเข้ามาช่วยบริหารซัพพลายเชน จึงสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ และ บริหารจัดการสินค้าคงคลังของเครือข่ายทั้งหมดอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์ และอุปทานได้อย่างทันเหตุการณ์ รวมถึงจัดหาคลังสินค้าเพิ่มเติมตั้งแต่ช่วงต้นของการระบาด เพื่อให้สามารถจัดส่งสินค้า ให้แก่คู่ค้าและตัวแทนจำหน่ายได้ตามปกติ”