ธิติพร กล่าวต่อว่า “จากกรณีสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบันทำให้ปริมาณความต้องการของน้ำดื่มสะอาดมีมากขึ้น ประกอบกับประชาชนมีความกังวลเรื่องสินค้าจะขาดตลาดจนอาจมีการกักตุนสินค้ามากขึ้น ซึ่งบริษัทฯขอให้ความมั่นใจว่า เรายังสามารถตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศได้ ด้วยระบบการผลิตที่ได้มาตรฐานจากโรงงานผลิตน้ำดื่มสิงห์ทั่วประเทศได้แก่ โรงงานสุราษฎร์ธานี เบเวอเรช, โรงงานเชียงใหม่ เบเวอเรช, โรงงานวังน้อย เบเวอเรช, โรงงานมหาสารคาม เบเวอเรช, โรงงานบุญรอดเอเซีย เบเวอเรช, โรงงานปทุมธานี บริวเวอรี่ และโรงงานขอนแก่น บริวเวอรี่
นอกเหนือจากนี้ ทางบริษัทฯยังได้เพิ่มช่องทางการสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า โดยสามารถสั่งซื้อผ่านSingha online shop (www.singhaonlineshop.com)อีกทั้งเพิ่มกำลังการจัดส่งน้ำดื่มสิงห์ให้ทันต่อความต้องการของผู้บริโภคอีกด้วย
ปัจจุบันน้ำดื่มสิงห์ ครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ในตลาดน้ำดื่มขวดแก้วและขวดพลาสติกด้วยสัดส่วน 24%โดยสำหรับตลาดขวดแก้ว(Glass) น้ำดื่มสิงห์ มีส่วนแบ่งตลาด 48.4% และตลาดขวดพลาสติก(PET) น้ำดื่มสิงห์มีส่วนแบ่งการตลาด 23% (อ้างอิงข้อมูลจาก AC Nielsen)