ธุรกิจในเครือ กลุ่มเซ็นทรัล อาทิ ไทวัสดุ ได้ส่งมอบเครื่องป้องกันการแพร่กระจายเชื้อสำหรับผู้ป่วย อันอาจเกิดจากการไอ จาม เสมหะของผู้ปวย ไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อไปยังบุคลากรทางการแพทย์หรือบริเวณโดยรอบ รวมทั้งสิ้น 9 โรงพยาบาล 6 จังหวัด จำนวน 58 ชุด ทั้งนี้อุปกรณ์ดังกล่าวถูกผลิตขึ้นด้วยฝีมือของพนักงาน ไทวัสดุและนายช่างที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งร่วมแรงร่วมใจกันประกอบอุปกรณ์ขึ้นมา โดยจะมีการผลิตเพิ่มเติม เพื่อนำไปใช้ในการปฏิบัติงานต่อไป , ท็อปส์-เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์-แฟมิลี่มาร์ท เตรียมมอบหน้ากาก N95 , หน้ากากป้องกันละอองฝอย (face shield) และเจลแอลกอฮอลล์ ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และซีพีเอ็น พนักงานทุกคนพร้อมใจกันทำหน้ากาก Face Shield จำนวนกว่า 60,000 ชิ้น ส่งมอบให้บุคลากรทางการแพทย์กว่า 5,000 คน อีกด้วย, เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป (ซีอาร์จี) สนับสนุนอาหารจากแบรนด์ในเครือให้โรงพยาบาลทั้งหมด 6 แห่ง รวมไปถึง โรงแรมในเครือเซ็นทารา สนับสนุนห้องพักให้กับ ผู้บริหารและ อาจารย์แพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยทั่วไป เพื่อความสะดวกในการประสานงานให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ ที่โรงแรมเซ็นทารา แอท เซ็นทรัลเวิลด์
ทางด้าน ศาสตราจารย์ เกียรติคุณ แพทย์หญิงสมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภาและอดีตนายกแพทยสมาคมฯ กล่าวว่า “เรารู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ กลุ่มเซ็นทรัล เห็นถึงความสำคัญต่อบุคคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อจัดส่งให้กับ 20 โรงพยาบาลทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งขณะนี้เป็นเครื่องมือที่จำเป็นอย่างยิ่งในการต่อสู้กับเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะหน้ากากอนามัย N95 ที่ทางแพทย์ต้องการเป็นอย่างมาก เพราะในบางกรณีที่ต้องทำหัตถการบางอย่างกับคนไข้ เช่น ใช้เครื่องดูดเสมหะ การพ่นยาให้คนไข้แบบเป็นหมอก (nebulization) จะเกิดละอองลอยในอากาศ (aerosol) ซึ่งไวรัสจะแขวนลอยอยู่ได้นานกว่าปกติในอากาศ หน้ากาก N95 จึงจำเป็นต่อกระบวนการแพทย์ เพราะได้มาตรฐานและมีการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ และอายุการใช้งานก็ยาวนาน ในส่วนของน้ำยาตรวจหาเชื้อไวรัส หรือถุงมืออนามัย ก็สำคัญไม่แพ้กัน และทางกลุ่มเซ็นทรัลสนับสนุนทำประกันชีวิตให้กับหมอและพยาบาลทั่วประเทศในเครือข่ายแพทยสภา ภายใต้โครงการประกันชีวิตหมออีก 1 ล้านบาท เพื่อเป็นหนึ่งในการมอบกำลังใจดีๆ ให้แก่ คุณหมอ และ พยาบาลทั่วประเทศ
แพทยสภา และแพทยสมาคมฯ เห็นสมควรว่าการบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ควรกระจายส่งมอบโรงพยาบาลให้ทั่วทุกภูมิภาค ไม่ว่าจะในกรุงเทพ ปริมลฑล หรือต่างจังหวัด ที่มีการขาดแคลนและร้องขอจริงๆ ซึ่งเบื้องต้นรวบรวมได้ทั้งหมด 20 โรงพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, โรงพยาบาลตำรวจ, สถาบันบำราศนราดูร, โรงพยาบาลกลาง, โรงพยาบาลตากสิน, ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตน์, โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ, โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า, วชิรพยาบาล, โรงพยาบาลรามาธิบดี, โรงพยาบาลราชวิถี, โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ, โรงพยาบาลศิริราช, โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า, โรงพยาบาลแม่สอด จ.ตาก, โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่, โรงพยาบาลศรีนครินทร์ (มหาวิทยาลัยขอนแก่น) จ.ขอนแก่น, โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก, โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จ.สงขลา, โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา
อย่างไรก็ตาม กลุ่มเซ็นทรัล ยังได้ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ ในการดูแลความปลอดภัย ให้กับทั้ง พนักงาน ลูกค้า คู่ค้า และ พันธมิตร ทุกภาคส่วน ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด อาทิ การตรวจวัดไข้ ติดตั้งเทอร์โมสแกน ติดตั้งเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อทุกวัน การติดตั้งเครื่องดักเชื้อโรคที่ระบบปรับอากาศ ทำความสะอาดราวบันไดเลื่อน ทำความสะอาดลิฟท์ ทุกครึ่งชั่วโมง และทุกจุดสัมผัสของพื้นที่ส่วนรวม ทั้งในศูนย์การค้า และ สำนักงาน
ในส่วนของบุคลากรในองค์กรเราได้มีการแจกหน้ากากอนามัยให้พนักงาน และจัดทำประกันภัยโควิด-19 ให้กับพนักงานทุกคน การตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเริ่มงาน และสนับสนุนให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน เป็นต้น
สุดท้ายนี้ กลุ่มเซ็นทรัล จะยังคงเดินหน้าสนับสนุนทุกภาคส่วนโดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง และขอเป็นกำลังใจให้ทุกหน่วยงานสามารถฝ่าฟันวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ไปด้วยกันด้วยความเข้มแข็ง รวมทั้งเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ และหวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลายโดยเร็ว