2.รุกด้วยกลยุทธ์ แบรนด์พอร์ตโฟลิโอ โดยหยิบเอาเทรนด์ของผู้บริโภคเข้ามาเป็นตัวกำหนดแนวทางในการเลือกแบรนด์ที่จะแมตช์เข้าไปกับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละช่วงเวลา ซึ่ง ศิเรมอร ศุภจรรยา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ SPBT ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ซันโทรี่และเป๊ปซี่โค บอกกับเราว่า ต้องเข้าใจสิ่งที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคให้ทัน และนำมาเป็นแนวทางในการทำตลาด โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคที่อยู่ใน Gen Z ที่ถือเป็นฐานลูกค้าสำคัญของตลาดน้ำอัดลม
จากผลวิจัยทางการตลาดที่เกี่ยวกับเทรนด์ของผู้บริโภคและพฤติกรรมการบริโภคเครื่องดื่มพบว่า ผู้บริโภคกลุ่มเจนเนอเรชั่น Z (gen Z) ในช่วงอายุระหว่าง 10-21 ปี นับเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่พร้อมเปิดรับกับสิ่งแปลกใหม่ตลอดเวลา โดยมีจำนวนถึงร้อยละ 19 ของกลุ่มประชากรในประเทศไทย ซึ่งผู้ประกอบการต่างก็ให้ความสำคัญและนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคกลุ่มนี้
“ผู้บริโภคในทุกกลุ่มวัยให้ความสำคัญกับกระแสรักสุขภาพอย่างต่อเนื่อง โดยผู้บริโภคเองยังมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์และมีรสชาติดี ช่วยเติมเต็มความสดชื่น นอกเหนือไปจากการบริโภคน้ำตาลให้น้อยลงแล้ว ยังต้องการผลิตภัณฑ์ที่เสริมในเรื่องของสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มวิตามินต่างๆ หรือส่วนผสมที่ช่วยเรื่องความสวยความงามและชะลอวัย”
ความต้องการของคนหลากกลุ่มที่มีออกมาค่อนข้างหลากหลายนี้ ทำให้ต้องมีแบรนด์พอร์ตโฟลิโอที่แข็งแกร่ง และพร้อมนำเข้ามาทำตลาดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละกลุ่มให้ได้อย่างลงตัว ล่าสุดกับการเปิดตัวมิรินด้า รสชาติใหม่ กลิ่นกรีนครีมเพื่อเอาใจ Gen Z และเซเว่นอัพ ฟรีที่ไม่มีน้ำตาล ไม่เจือสี ไม่มีกาเฟอีนซึ่งเป็นสินค้าใหม่ตอบโจทย์ทางเลือกเพื่อผู้บริโภคที่รักสุขภาพ บุกตลาดในช่วงหน้าร้อน คือคำตอบในเรื่องนี้
ตลาดน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาล กำลังมีเทรนด์การเติบโตที่น่าสนใจ สินค้าในกลุ่มนี้จะเข้ามาตอบโจทย์กลุ่มคนที่ใส่ใจสุขภาพ แต่ยังคงอยากดื่มน้ำอัดลม แม้เป๊ปซี่ มีสัดส่วนของสินค้าในกลุ่มน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาลแค่ประมาณกว่า 10% แต่มองจากเทรนด์ของตลาดที่มีการขยายตัวค่อนข้างดี เชื่อว่าคงมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ เข้ามาในตลาดนี้อีก
ก่อนหน้าการเปิดตัวเซเว่นอัพ ฟรี ไม่มีน้ำตาลนั้น ในซัมเมอร์ปีที่แล้ว เป๊ปซี่ ก็มีการเปิดตัว เป๊ปซี่ แมกซ์ เทสต์ ราสเบอรี่ ซึ่งเป็นครั้งแรกในบ้านเราที่เป๊ปซี่ แมกซ์ มีการเปิดตัวรสชาติใหม่ที่ไม่ใช่โคล่าแบบไม่มีน้ำตาลที่เราคุ้นเคย แต่เป็นการเติมกลิ่นราสเบอรี่เข้าไปเพื่อช่วยสร้างความแปลกใหม่ในการดื่ม
เป๊ปซี่ ต้องการใช้เป๊ปซี่ แมกซ์ กลิ่นราสเบอรี่เป็นอีก 1 ตัวช่วยในกระตุ้นการเติบโตของสินค้าในกลุ่มนี้ โดยตลาดน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาลในบ้านเรามีสัดส่วนยังไม่ถึง 10% ของตลาดน้ำอัดลมประเภทน้ำดำที่มีสัดส่วนประมาณ 71% ของตลาดน้ำอัดลมมูลค่า 56,000 ล้านบาท ถือเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 3 ปีหลังมานี้ หลังจากที่ก่อนหน้านั้น สัด ส่วนของตลาดน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาลมีเพียง 1 – 2% เท่านั้น
ในปีนี้ เป๊ปซี่ แมกซ์ ยังมีหนังโฆษณาชุดใหม่ที่จะออนแอร์ในเร็วๆ นี้ โดยหนังโฆษณาชุดนี้ เป็นการนำซูเปอร์สตาร์ในแวดวงฟุตบอลของโลก อย่าง ลิโอเนล เมสซิ ของทีมบาร์เซโลนา โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ จากลิเวอร์พูล ปอล ป็อกบา ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และราฮีม สเตอร์ลิ่ง จากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาร่วมแสดง ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งสีสันที่เข้ามาช่วยปลุกให้ตลาดน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาลของบ้านเรามีความคึกคักมากยิ่งขึ้นไปอีก
3.ระบบจัดจำหน่าย เรื่องของดิสทริบิวชั่น ถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของความสำเร็จในการทำตลาดน้ำอัดลม จากผลพวงมาจากการเปลี่ยนระบบการขายจากเดิมที่มีพันธมิตรอย่างเสริมสุขเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายให้ แต่หลังจากที่สิ้นสุดสัญญากับเสริมสุขเมื่อเดือนตุลาคม 2555 เป๊ปซี่ก็หันมาสร้างระบบจัดจำหน่ายด้วยการใช้ดิสทริบิวเตอร์หลายรายในการจัดจำหน่ายให้ พร้อมกับยกเลิกการทำตลาดน้ำอัดลมขวดแก้วแบบคืนขวดแล้วหันมาเน้นแพ็กเกจจิ้งแบบวันเวย์ทั้งขวด PET และแบบแคน