ล่าสุดกับแคมเปญ “น้ำดื่มสิงห์ คืนดวงใจให้แม่” ซึ่งเป็นไอเดียที่จุดประกายโดย คุณภูริต โดยมอบหมายให้ทีมงานประสานการทำงานกับมูลนิธิกระจกเงา จนสำเร็จเป็นฉลากคนหายบนขวดน้ำดื่มสิงห์ โดยเลือกโฟกัสไปที่ปัญหาการสูญหายในกลุ่มเด็กเพราะหากสามารถตามตัวเด็กเจอเท่ากับเป็นการช่วยลดปัญหาการค้ามนุษย์ในไทยได้อีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ได้นำภาพและข้อมูลของเด็กที่หายไป ใช้เวลาตามหามานาน 6-17 ปี รวม 5 คน มาลงบนฉลากน้ำดื่มสิงห์ ซึ่งนอกเหนือจากประโยชน์ในการช่วยกันตามหาเด็กที่มีอยู่แล้ว ในอีกทางหนึ่งยังทำให้สภาพสังคมได้ตระหนักและตื่นตัวในเรื่องของปัญหาเด็กหาย ในขณะเดียวกันเป็นการใช้พื้นที่ฉลากของสินค้าให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ได้จัดพิมพ์ฉลากเด็กหายบนขวดน้ำดื่มสิงห์ขนาด 600 และ 750 มิลลิลิตร ซึ่งเป็นขนาดที่ผู้บริโภคนิยมดื่ม โดยเบื้องต้นผลิตไปกว่า 20 ล้านขวด ครอบคลุมช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งร้านค้าทั่วไป (Traditional Trade) ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) รวมถึงร้านสะดวกซื้อชั้นนำทั่วประเทศ โดยสินค้าดังกล่าวจะจำหน่ายในช่วงเดือนสิงหาคมจนถึงเดือนกันยายน 2562
คุณภูริต กล่าวว่า “ปัญหาเด็กหายเป็นอีกปัญหาทางสังคมที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด ผมเข้าใจถึงความรู้สึกของผู้ที่เป็นพ่อแม่ของน้องๆ ที่หายไปว่าทุกข์ทรมานขนาดไหน ทุกครั้งที่ผมได้ยินเรื่องนี้ ผมถามตัวเองว่าเราจะช่วยอะไรได้บ้าง วันหนึ่งผมพบว่าเราน่าจะใช้ฉลากน้ำดื่มสิงห์เป็นอีกช่องทางการสื่อสารที่ช่วยในการติดตามได้และได้ติดต่อไปยังมูลนิธิกระจกเงาทันที เพื่อประสานการทำงานร่วมกัน จนสำเร็จเป็นโครงการ คืนดวงใจให้แม่ Return Heart to Home ในวันนี้”
ภาพเด็กหายที่ปรากฏข้างขวดใช้การวาดภาพจำลองใบหน้าของเด็กจากโครงหน้าจริงโดยเทียบเคียงกับอายุจริงในปัจจุบัน เพื่อให้ผู้บริโภคจดจำใบหน้าที่ใกล้เคียงจากความเป็นจริงมากที่สุด นอกจากนี้ยังได้มีการเพิ่ม QR Code บนฉลาก สำหรับคนที่สนใจอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมก็สามารถสแกนเข้าไปดูภาพในวัยเด็กและอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้
ด้วยปริมาณการขายที่สูงมากต่อวัน น้ำดื่มสิงห์คาดว่าจะมีผู้บริโภคที่เห็นใบหน้าของเด็กทั้ง 5 คน ในช่วงเวลาดังกล่าวประมาณ 20 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 1 ใน 3 ของประเทศ
หากรวมถึงใช้สื่อทุกช่องทางของบริษัททั้งระบบ Intranet เพื่อให้พนักงานและบริษัทในเครือกว่า 50 บริษัท รวมถึงพลังของตัวแทนจำหน่ายซึ่งกระจายอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ในการช่วยกันประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อที่มี เช่น สื่อ Digital Signage สื่อ LED สื่อ Cable ท้องถิ่น และป้าย Banner ซึ่งสื่อต่างๆ เหล่านี้ จะช่วยสร้างการรับรู้และตระหนักถึงปัญหาเด็กหาย อีกทั้งยังทำให้มีการระมัดระวัง และป้องกันปัญหาเด็กหายได้อีกทางหนึ่งด้วย
นับเป็นการสร้างสรรค์แบรนด์เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ไม่จำเป็นต้องเน้นแต่กระแส แต่ไอเดียเพื่อสังคมในครั้งนี้ทำให้แบรนด์กลายเป็นหนึ่งในตัวช่วยประชาสัมพันธ์ให้ชีวิตของผู้บริโภคดีขึ้น สร้างความรู้สึกที่ดีต่อผู้บริโภค เมื่อผู้บริโภครู้สึกดีต่อแบรนด์การเกิด Brand Love ในใจผู้บริโภคก็เป็นเรื่องง่าย
เห็นได้ชัดว่าองค์กรอย่างสิงห์ คอร์เปอเรชั่น เป็นตัวอย่างที่ดีในการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดในระบบสอดรับกับหัวใจหลักในการบริหารงานที่มุ่งสร้างความสุขที่ยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมมาโดยตลอด เพราะการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนไม่ใช่แค่องค์กรเท่านั้นที่เติบโต แต่สิงห์ คอร์เปอเรชั่น มองถึงการเติบโตไปด้วยกันทั้งองค์กร คน และสังคม ต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วยเช่นเดียวกัน