เมื่อมองมาที่ทิศทางของคอนซูเมอร์ เทรนด์ ที่พบว่า ผู้บริโภคปัจจุบันจะมีประสบการณ์การทำผมจากซาลอนมากขึ้น ทั้งการสระไดร์ การดัด ทำสี ยืด บำรุง รวมทั้งเทรนด์ผลิตภัณฑ์เส้นผมกลุ่มพรีเมียมมีแนวโน้มที่จะเติบโต เช่น เดียวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมจากซาลอน ซึ่งเป็นผลมาจากผู้บริโภคไทยมีความต้องการสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น และต้องการดูแลรักษาเส้นผมด้วยตัวเอง ทำให้ซาลอนแบรนด์มีทิศทางในการเติบโตออกมาค่อนข้างดี
แบรนด์ที่ 6 ลักส์ซูเปอร์ริช เป็นแบรนด์แชมพูพรีเมียมที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปีที่แล้วมีจุดขายในเรื่องของความหอมจากน้ำหอมแบรนด์ดัง ซึ่งเป็นการเข้ามาเสริมพอร์ตแชมพูพรีเมียมให้มีความลงตัวมากยิ่งขึ้น
สกินแคร์กับ 2 แบรนด์หลัก
ในตลาดสกินแคร์ผิวหน้านั้น ยูนิลีเวอร์ใช้การทำตลาดผ่านแบรนด์พอนด์สที่มีการใช้ซับแบรนด์ เพื่อเจาะในแต่ละความต้องการของผิว ขณะที่สกินแคร์ที่เป็นบอดี้ โลชั่น จะมี 2 แบรนด์หลักที่ทำตลาดอยู่คือวาสลีนกับซิตร้า
2 แบรนด์นี้ มีการวางตำแหน่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยซิตร้าจะตอบโจทย์ในเรื่องของผิวกระจ่างใส นุ่มละมุน ที่มาจากคุณค่าจากธรรมชาติในทุกสูตร เนื่องจากซิตร้าเป็นแบรนด์ที่มาจากสารสกัดจากธรรมชาติ จึงมีการขยายไลน์ของผลิตภัณฑ์เพื่อเข้าไปตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละช่วงเวลา อย่างเมื่อ 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ตลาด FMCG ของบ้านเราถูกสร้างให้เกิดความฮือฮาด้วยแบรนด์ไทยๆ ไม่ว่าจะเป็นเบนเน็ท หรืออิงอร ที่เข้าตลาดด้วยสินค้าประเภทสบู่ที่ช่วยทำให้ผิวขาว ซิตร้าก็มีการเกาะกระแสนี้ด้วยการส่งไลน์ผลิตภัณฑ์ประเภทสบู่ผสมทานาคา ซึ่งเป็นการเติมเต็มสินค้าในพอร์ตเพื่อเล่นกับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละช่วงเวลาได้เป็นอย่างดี
ส่วนแบรนด์วาสลีน จะขายในเรื่องของสุขภาพผิว ซึ่งเป็นจุดขายที่ค่อนข้างแข็งแกร่งที่ติดตัวแบรนด์นี้มานาน โดยเมื่อหลายปีก่อน ยูนิลีเวอร์ก็มีการใช้แบรนด์วาสลีนเข้าไปแทนที่แบรนด์ฮาร์โมนี ในตลาดสบู่เซ็กเม้นต์เพื่อสุขภาพผิวที่มีเจ้าตลาดอย่างโพรเทคส์จากค่ายคอลเกตเป็นผู้นำอยู่ และยูนิลีเวอร์ก็ส่งฮาร์โมนีเข้ามาแข่งด้วย แต่ไม่สามารถเขย่าบัลลังก์ของโพรเท็คได้ จึงมีการปรับกลยุทธ์ด้วยการนำแบรนด์ฮาโมนีออกจากตลาด
การออกจากตลาดในครั้งนี้ เป็นการออกแบบค่อยๆ เฟดแบรนด์ฮาร์โมนีออกมา เพื่อแทนที่ด้วยวาสลีน โดยใน ช่วงแรกมีการใช้ชื่อแบรนด์คู่กันคือวาสลีน – ฮาร์โมนี ก่อนค่อยๆ เฟดแบรนด์ฮาร์โมนีออกเหลือเพียงวาสลีน ที่ในปัจจุบันยังคงทำตลาดสบู่เพื่อสุขภาพผิวอยู่
แม้จะดูเหมือนว่า การทำตลาดด้วยมัลติแบรนด์ของยูนิลีเวอร์จะกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญ แต่ยักษ์ใหญ่รายนี้ ก็มีการผสมผสานการทำตลาดในรูปแบบของ Single Brand ด้วย โดยแบรนด์อย่างโดฟ ถูกวางให้เป็นเพอร์ซันนั่ลแคร์ที่ครอบคลุมการทำตลาดทั้งในส่วนของแฮร์แคร์ บอดี้โลชั่น และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า
เข่นเดียวกับการเปิดตัว 2 แบรนด์ใหม่อย่างผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มเพอร์ซันนั่ลแคร์ภายใต้แบรนด์ “เลิฟ บิวตี้ แพลนเน็ต” ที่ประกอบไปด้วยแชมพู ครีมนวดผม และแบรนด์ “เซเว่นท์ เจนเนอเรชั่น” ในกลุ่มโฮมแคร์ อย่างน้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้า และสเปรย์ทำความสะอาดบ้าน
ทั้ง 2 แบรนด์จะเข้ามาช่วยทำให้สามารถจับต้องได้ในเรื่องของการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมของยูนิลีเวอร์ เพราะนอกจากจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ทำจากสารเคมี และไม่ได้ใช้สัตว์มาเป็นตัวทดลองในการพัฒนาผลิตภัณฑ์แล้ว ในแง่ของบรรจุภัณฑ์ยังเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เพราะทำจากพลาสติกรีไซเคิลทั้งหมด โดยทั้ง 2 แบรนด์ เป็นแบรนด์ระดับโกลบอลที่เปิดตัวในตลาดอเมริกา ก่อนที่จะขยับมาที่บ้านเรา ซึ่งยูนิลีเวอร์เปิดตัว แบรนด์เลิฟ บิวตี้ แพลนเน็ตไปแล้วเมื่อช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ส่วน เซเว่นท์ เจนเนอเรชั่น จะเปิดตัวในบ้านเราภายในปีนี้
ถือเป็นการผสมผสานกลยุทธ์การทำตลาดผ่านแบรนด์ได้อย่างลงตัว.....