ในยุคที่ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว คำพูดที่เคยใช้ในวงการโฆษณา ที่ว่า One Step Ahead หรือต้องนำหน้าผู้บริโภค 1 ก้าวเสมอ ยังคงใช้ได้หรือไม่ ในยุคที่ผู้บริโภครู้ทุกอย่าง? ทีมงานตั้งข้อสงสัย...
“เราเติบโตต่อเนื่องตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีเพียง 2 กลุ่มบริษัทของบรรดา Multinational Networks ที่ทำแบบนี้ได้ เหตุผลว่าทำไมเราถึงเติบโต เพราะเราได้คิดค้นสิ่งใหม่ๆ มากกว่าเครือข่ายอื่นๆ
คุณจะไม่สามารถก้าวหน้าในการแข่งขันและล้ำหน้าลูกค้าของคุณได้เลย ถ้าคุณไม่เต็มใจที่จะลงทุน เราโชคดีที่เป็นเครือข่ายที่ยังอายุน้อยมากเมื่อเทียบกับเครือข่ายที่มีอายุมากกว่า 120 ปี เราโชคดีเพราะเราซื้อ Agency ที่ยอดเยี่ยมเข้ามา มีคนเก่งๆ เข้ามาร่วมงาน ปัจจุบันนี้เรามีการลงทุนเรื่อง Data ไปแล้ว ภาพใหญ่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระดับ Global ขณะที่ประเทศไทยเป็นตลาดใหญ่ และ Regional Head Quarter ของเราก็อยู่ที่นี่ เราลงทุนมหาศาลเรื่องข้อมูล และคิดว่าจะนำพาเราไปบนเส้นทางที่ถูกต้อง ดังนั้นเราจึงยังคงนำหน้าในการแข่งขัน ทั้งในเรื่องพฤติกรรมผู้บริโภค
ผมคิดว่า ส่วนหนึ่งของเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ คือวัฒนธรรมของบริษัท คุณรู้ว่าคุณสามารถพูดได้ว่าคุณกำลังจะทำอะไรบางอย่าง สิ่งที่เราพูดถึงกันมากๆ คือ ลงมือเลยไม่ใช่เอาแต่ประชุม เราทำเลยไม่ใช่แค่พูดว่าตั้งใจจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ และพูดถึงผลลัพธ์ และผมคิดว่า นั่นคือปัจจัยที่ทำให้เราได้ผลอย่างที่เกิดขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา” Troy Ruhanen ตอบอย่างมั่นใจ
ในเมื่อสื่อสารการตลาดเปลี่ยนแปลงไปถึงขนาดนี้ ทีมงานอยากรู้ว่าในอนาคตโฆษณาจะเป็นอย่างไร ?
Troy Ruhanen อธิบายข้อสงสัยนี้ให้กับทีมงานฟังว่า โฆษณาทีวีแบบดั้งเดิมเป็นเรื่องผลต่างตอบแทนระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค ผ่านงบที่ถูกจัดสรรปันส่วนออกมา โดยมีบริษัทโฆษณาทำหน้าที่จัดวางตำแหน่งแบรนด์ให้อยู่ในสถานการณ์ที่เหมาะสม ในจุดที่ผู้บริโภคคิดว่ามีความเชื่อมโยงกับแบรนด์ ซึ่งก็ไม่มีใครรู้คำตอบที่ถูกต้อง แต่ไม่ว่าเทคโนโลยีจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะไม่เปลี่ยนแปลง ก็คือ คนจะตอบสนองต่อความคิดสร้างสรรค์ เช่น คนฟังเพลงจะตอบสนองกับเพลง เพราะเพลงเป็นผลงานจากความคิดสร้างสรรค์ คนตอบสนองต่อหนัง เพราะหนังเป็นผลงานจากความคิดสร้างสรรค์
“โดยพื้นฐานแล้ว ผมเชื่อว่าธุรกิจเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์จะเป็นอย่างนี้ตลอดไป แต่สิ่งที่เปลี่ยนไป คือ ลูกค้าจะเป็นคนกำหนด ขับเคลื่อน Agenda ลูกค้าจะเป็นคนบอกว่า นี่คือสิ่งที่ต้องการ นี่คือสิ่งที่ฉันอยากเป็น
ผมคิดว่า ลูกค้าต้องการให้ Agency ทำอะไรได้มากกว่าเดิม หรือทำงานแบบบูรณาการงานเข้าด้วยกัน คนโฆษณายุคใหม่ต้องอยู่เคียงข้างลูกค้าจริงๆ แบบเป็นคู่ค้า”
President TBWA\Worldwide ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า โชคดีที่การทำงานของ TBWA\Worldwide นั้น ไม่ใช่ว่าเป็นบริษัทจากนิวยอร์กที่ขยายสาขาออกไปแล้วต้องเป็นนิวยอร์ก หากแต่แนวทางการทำงานของบริษัทจะเราเปิดรับทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะมาจากที่ไหน เปิดรับทุกๆ นวัตกรรม ไม่ว่าจะมาจากไหนก็สามารถเป็น Global Platform ได้
“เอเชียเป็นภูมิภาคที่มีความสำคัญ วัฒนธรรมของเอเชียเน้นให้ความสำคัญเรื่องนวัตกรรม ดังนั้นเราจึงมีความคาดหวังสูงมากว่าเอเชียจะเป็นแรงกระตุ้นสำคัญในการทำเรื่อง Solutions ต่างๆ ของเรา สำหรับเรื่อง Mobility เอเชียกำลังจะก้าวหน้าไปเร็วกว่าชาติตะวันตก เนื่องจากผมคิดว่ามีบางตลาดที่การใช้อุปกรณ์มือถือเติบโตสูงมากส่วนตัวผมมองว่า คนเอเชียที่มองโลกในแง่ดีกว่าภูมิภาคอื่นๆ ในโลก นั่นหมายถึงมีพลังบวกอยู่ที่นี่มากกว่าที่อื่น”
นอกจากเรื่อง Transformation องค์กรแล้ว ทุกวันนี้ TBWA มี Key Focus ในเรื่องอะไรบ้าง ?
“ความสามารถในการเข้าใจ Customer Journey ที่ถูกต้องในขณะนี้เป็นเรื่องยาก แต่ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง และผมคิดว่าบรรดาสื่อก็เข้าใจเรื่องนี้ดี และผมคิดว่า ทุกอย่างน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าคุณมีข้อมูลแบบที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ผมเชื่อเช่นนั้น
แต่ความเป็นจริง เราไม่มีเวลามากพอที่จะทำความเข้าใจกับ Journey ของลูกค้าก่อนที่จะเริ่มงานใดๆ ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องเข้าใจ Journey ก่อน จากนั้นก็ควรรู้ถึงเป้าหมายทางธุรกิจของลูกค้า แล้วนำมากำหนดวิธีปฏิบัติให้ตรงกับ Journey ที่แท้จริง กับอีกเรื่อง ก็คือ การคิดแพลตฟอร์มขนาดใหญ่เพื่อดึงดูดผู้บริโภคไปสู่แพลตฟอร์ม E-Commerce” Troy Ruhanen อธิบาย พร้อมกับยกตัวอย่างที่พิสูจน์ความสำเร็จในสิ่งที่ทำไป คือ การที่ TBWA ไม่เสียลูกค้ารายหลักรายใดเลย