เราต่างเผชิญหน้ากับการปรับเปลี่ยนอัลกอริธึมของแพลตฟอร์มต่างๆในโลก Social Media ที่ได้สร้างความท้าทายในการเพิ่ม engagement ในคอนเทนต์ของแบรนด์ แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ใช่ว่าไร้หนทางเสียทีเดียว ด้านล่างนี้เรามีเทคนิคในการสร้างคอนเทนต์ของคุณเพื่อสู้กับความเปลี่ยนแปลงทั้งหลายนี้ ถ้าคุณต้องการให้คอนเทนต์ของคุณน่าสนใจ รีบอ่านเทคนิคดีๆ ด้านล่างนี้เลย
1. ศึกษาข้อมูลให้ดีและทำการบ้านเยอะๆ
ถ้าอยากให้ผู้ติดตามของคุณเห็นและสนใจคอนเทนต์ของคุณ คุณต้องทำให้คอนเทนต์นั้นมีความเกี่ยวข้องและเป็นสิ่งที่ผู้ติดตามของคุณมองหาจริงๆ แต่นั่นก็อาจจะยังไม่พอ คุณจะต้องใช้เวลาในการทำการบ้านเพื่อศึกษาผู้ติดตามหรือกลุ่มเป้าหมายของคุณให้ดี อาจจะเริ่มจากข้อมูลประชากรพื้นฐานและเจาะลึกลงไปให้มากกว่านั้น
อะไรคือสิ่งที่เขาต้องการ อะไรคืออุปสรรคในชีวิตของเขา และอะไรคือความท้าทายที่กลุ่มเป้าหมายของคุณกำลังเจอในชีวิต เลือกสรรสิ่งที่มีความจำเป็นและท้าทายต่อชีวิตของพวกเขามาทำเป็นคอนเทนต์เพื่อสื่อสารสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่จะช่วยแก้ไขหรือตอบความต้องการที่เขามองหาอยู่ให้จงได้
เทคนิคดีๆ ที่น่าสนใจก็ดังเช่น คุณอาจจะมองหาเรื่องราวความสำเร็จในอดีตที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์ของคุณ อะไรคือสิ่งที่แบรนด์คุณทำให้ลูกค้าและเป็นเรื่องราวดีๆ นำมาทำเป็นคอนเทนต์เพื่อทำให้ผู้ติดตามจินตนาการออกว่าเขาเองก็อยากจะมีภาพความสำเร็จแบบนั้นเช่นกัน และทำให้พวกเขามีความรู้สึกที่ดีต่อแบรนด์ของคุณ
2. พูดภาษาเดียวกันกับเขา
เมื่อเราเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการ อันดับต่อไปคือการสื่อสารสิ่งนั้นในภาษาที่เขาเข้าใจและใช้อยู่ เพื่อให้แน่ใจว่าคอนเทนต์จะจับใจคนอ่านได้จริงๆ การทำแบบนี้เป็นเครื่องยืนยันว่า เราเข้าใจเขาจริงๆ เข้าใจแม้กระทั่งภาษาที่เขาเองใช้
ตัวอย่างเช่น ภาษาที่คุณใช้เพื่อการเขียนคอนเทนต์ให้เหล่าผู้บริหารบน LinkedIn อ่านจะต้องแตกต่างจากภาษาที่คุณใช้บน Facebook ที่เขียนให้เหล่าคุณแม่มือใหม่อ่าน ไม่ใช่เพียงแต่ความต้องการและความท้าทายในชีวิตที่แตกต่าง แต่ภาษาที่เขาใช้ก็ย่อมแตกต่างด้วย ดังนั้น เราต้องทำความเข้าใจและหาให้เจอ
3. อย่าลืมที่จะเป็นตัวของตัวเอง
นอกจากจะเขียนคอนเทนต์ด้วยภาษาของผู้ติดตามของเรา เรายังจะต้องเขียนด้วยภาษาที่เป็นตัวของตัวเองด้วยเช่นกัน ภาษาที่เราเขียนจะสื่อถึงลักษณะและบุคลิกภาพของแบรนด์ของเรา รวมถึงอารมณ์ความรู้สึกที่แทรกซึมลงไปทุกอณูของทั้งคอนเทนต์และแคมเปญการตลาด ในฐานะคนสร้างคอนเทนต์ต้องกลับไปทบทวนบุคลิกลักษณะของแบรนด์เพื่อที่จะสื่อสารลงมาเป็นภาษาที่ใส่ไปในคอนเทนต์
มากไปกว่านั้น ภาษาที่ใช้จะต้องสม่ำเสมอถ้วนทั่วในทุกคอนเทนต์ด้วย เพื่อรักษาอารมณ์ร่วมของแบรนด์และผู้ติดตาม ที่สำคัญมันทำให้คอนเทนต์ของคุณแตกต่างในแบบที่ใครๆก็ทราบดีว่า นี่คือแบรนด์คุณเท่านั้น
4. มองโลกในแง่บวก และเขียนคอนเทนต์แบบแบรนด์ที่เป็นคนคิดบวก
การคิดแบบนี้ ไม่ได้แปลว่า คุณจะต้องเขียนคอนเทนต์ที่เป็นคนตลก สนุกสนาน เฮฮา มีแต่เรื่องที่มีความสุข มีความแตกต่างที่คุณต้องเข้าใจระหว่าง การเป็นแบรนด์คิดบวกกับการเป็นแบรนด์ตลก การทำให้ผู้ติดตามรู้สึกตื่นเต้นและอยากจะมีส่วนร่วมกับแบรนด์ไม่จำจะต้องทำให้คอนเทนต์เป็นคอนเทนต์ตลกสนุกสนาน
บางสถานการณ์ คุณอาจจะอยากเขียนคอนเทนต์ที่ลุกขึ้นมาเสนอจุดยืนบางอย่างเพื่อสะท้อนความคิดของแบรนด์ของคุณ สิ่งนี้สามารถทำได้ แต่ต้องแยกให้ออกอย่างชัดเจนระหว่างการแสดงจุดยืนกับการโจมตีวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่น
อย่าเอาแบรนด์ไปเล่นกับประเด็นดราม่าด้วยคอนเทนต์เด็ดขาด ไม่คุ้มกันอย่างแน่นอน
อย่าวิพากษ์วิจารณ์ใครก็ตามในโลกโซเชียลผ่านคอนเทนต์ที่อาจนำมาซึ่งกระแสด้านลบต่อแบรนด์ของคุณ จงพยายามเป็นแบรนด์ที่มองโลกในด้านดีและสะท้อนมันออกมาผ่านคอนเทนต์ที่ดี
5. เขียนให้เข้าใจง่าย และกระชับ
ทุกคนให้ความสำคัญกับเวลาของเขา ดังนั้น ในฐานะคนเขียนคอนเทนต์ คุณเองก็จะต้องให้ความสำคัญกับเวลาที่คนอ่านจะเสียไปกับคอนเทนต์เช่นกัน ต้องทำให้คอนเทนต์มีค่ามากพอที่เขาจะเสียเวลา หรือไม่ก็ทำให้เขาได้เนื้อหาในเวลาอันสั้นนั่นเอง เทคนิคดีๆ ง่ายๆ ก็อย่างเช่น
-ใช้งาน Bullet หรือการแบ่งหัวข้อ หรือการลิสท์รายการออกมาเพื่อให้คอนเทนต์นั้นดูง่ายที่จะอ่านแบบสแกนด้วยความรวดเร็ว
- เมื่อจบประโยคสองถึงสามประโยค ให้เราเปลี่ยนย่อหน้าใหม่ เพื่อความง่ายในการอ่านทำความเข้าใจ
- เขียนให้ชัดถอยชัดคำมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ทำให้คอนเทนต์นั้นสื่อความได้ชัดเจน
6. ให้าภาพช่วยเล่าเรื่อง
ใช้ภาพ วิดิโอ หรืองานกราฟฟิกอื่นๆ เพื่อช่วยเล่าเรื่องราวของคอนเทนต์ของคุณ การใช้ภาพเล่าเรื่องนั้นจะสร้างการมีส่วนร่วมได้มากกว่าและบอกเล่าเรื่องราวได้รวดเร็วและชัดเจนยิ่งกว่า และในความเป็นจริงแล้ว ภาพหรือวิดิโอเพียงอย่างเดียวก็บอกเล่าสารที่คุณต้องการเพียงพอแบบครบถ้วนด้วยซ้ำไป
แน่นอนว่า วิดิโอยังคงเป็นเครื่องมือส่งสารที่ดีไม่เสื่อมคลาย การเกิดขึ้นของการทำวิดิโอในรูปแบบ Live ยังคงได้รับความนิยมจากผู้ติดตามและผู้รับชมมากกว่าวิดิโอแบบที่เป็น Crafted Film นอกจากนั้น ก็พยายามที่จะใช้งานและหาวิธีการใช้ภาพหรือวิดิโอที่เข้ากันได้ดีกับแต่ละแพลตฟอร์ม เพื่อที่จะมั่นใจว่าสารของคุณถูกส่งไปยังผู้รับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
7. เพิ่มปุ่ม Call To Action
เมื่อจบคอนเทนต์ ลองใส่ CTA เพื่อกระตุ้นให้ผู้ติดตามเกิดการกระทำบางอย่าง การไม่ใส่ CTA อาจทำให้ผู้อ่านที่ชื่นชอบและซาบซึ้งต่อสารที่คุณส่งไม่ได้กระทำการใดใดต่อทั้งๆที่พวกเขามีโอกาสจะทำตามที่คุณต้องการให้เป็น ตัวอย่างของ CTA ที่ดีก็ดังเช่น
- ขอให้ผู้ติดตามกดไลต์หรือแชร์คอนเทนต์ของคุณ
- ถามให้ช่วยตอบที่ใต้คอมเมนต์
- พาเขาไปอ่านต่อยังคอนเทนต์อื่นๆของคุณ
- พาเขาไปยังเว็บไซต์ของคุณ
- ขอให้เขาติดตามโปรไฟล์เพจหรือบัญชีของคุณ
- ขอให้เขาติดตามคุณในช่องทางอื่นๆด้วย
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อนักเขียนคอนเทนต์ทั้งหลาย ให้ลองเอาไปใช้กันดู!