ทั้งหมดนั้น เกิดได้จากทั้งในแง่ของ Market Driving และ Market Driven คือใช้ทั้งการใช้กลยุทธ์การตลาดในการผลักดัน หรือการเกิดจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นคนผลักดันให้ทิศทางการตลาดมุ่งไปในทิศทางนั้นๆ จึงทำให้นักการตลาดต้องรีบหากลวิธีในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เกิดจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
โดยเฉพาะกับการทำ Market Driven ที่เป็นการพยายามเข้าใจ รวมทั้งศึกษา สังเกตในเชิงลึกถึงพฤติกรรมและความต้องการที่ยังไม่ถูกค้นพบในจิตใจของลูกค้า เพื่อนำเสนอสินค้าที่แตกต่าง และตรงใจผู้บริโภคมากกว่าที่มีอยู่ ซึ่งเป็น การสร้างตลาดใหม่โดยที่ไม่เป็นตลาดในลักษณะการใช้แบบเดิมๆ
ตัวอย่างที่สะท้อนให้ภาพตรงนี้ได้ชัดเจนก็คือ การสร้างตลาดสกินแคร์ผิวหน้าในตลาดแมส ที่แรกเริ่มเดิมทีนั้น ตลาดนี้จะมีขั้นตอนการใช้ที่ไม่สลับซับซ้อนอะไรมากนัก คือ มีแค่การใช้ตัวคลีนเซอร์ หรือทำความสะอาดผิวหน้าก่อนที่จะใช้ตัวครีมบำรุงผิวที่เป็นเบสิกแคร์หรือตัวเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้า
แต่เมื่อตลาดเริ่มมีพัฒนาการมากขึ้น ก็เริ่มมีขั้นตอนการใช้ที่มากขั้นตอนขึ้นคือหลังจากล้างหน้าแล้วก็ต้องตามด้วยตัวรองพื้น ก่อนว่ากันถึงขั้นตอนครีมบำรุงผิวต่างๆ และอายครีม ซึ่งในบ้านเราสาวๆ ส่วนใหญ่จะมีขั้นตอนทั้งหมดประมาณ 4 – 5 ขั้นตอน
ขณะที่ในประเทศที่แอดวานซ์หน่อยอย่างเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ขั้นตอนของการใช้มีมากถึง 8 – 9 ขั้นตอนทีเดียว ทำให้การใช้มีมากขึ้น มูลค่าตลาดก็มากขึ้นตามไปด้วย แน่นอนว่า ทั้งหมดนั้น เกิดขึ้นจากการมองหาโอกาสทางการตลาดจากการมองหาอินไซต์ของผู้บริโภคที่ยังไม่มีใครเคยตอบสนองให้มาก่อน แล้ว Educate ผู้บริโภคให้มีความรู้ความเข้าใจในรูปแบบการใช้สินค้า