Apple TV Plus แข่ง Netflix
เราได้เคยนำเสนอไปเมื่อช่วงสัปดาห์ก่อนที่ผ่านมาว่า หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ Apple จะเปิดตัวคือบริการทีวีสตรีมมิ่ง ที่จะทำให้ Apple เป็นหนึ่งในคู่แข่งสำคัญของ Netflix จ้าวตลาดทีวีสตรีมมิ่ง
Apple TV Plus (Apple TV+) เป็นบริการทีวีสตรีมมิ่งที่ให้บริการรายการบันเทิงและสาระ ระบบรับสมาชิก ไม่มีโฆษณา สามารถชมรายการได้ทั้งทางออนไลน์และดาวน์โหลดไปดูแบบออฟไลน์ สามารถดูได้ทาง Devices ของ Apple ทุกประเภท เช่น iPhone, iPad, Mac ให้บริการใน 100 กว่าประเทศทั่วโลก จะเริ่มให้บริการในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปีนี้
รายการสาระบันเทิงที่จะออกอากาศทาง Apple TV+ นี้จะมีรายการหลากหลายประเภท ทั้งภาพยนตร์, ซีรีส์, ทอล์คโชว์, วาไรตี้, สารคดี ซึ่ง Apple ได้ดึงมือดีชองฮอลลีวู้ดจำนวนมากหลายสิบคน ทั้งผู้อำนวยการสร้าง, ผู้กำกับ, ดารา, นักเขียนบทภาพยนตร์เข้ามาร่วมผลิตรายการที่เป็น Original สำหรับบริการ Apple TV+ เช่น Oprah Winfrey, Steven Spielberg, J.J.Abrams, Ron Howard, Richard Gere, M. Night Shayamalan, Steve Carell, Kumail Nanjiani, Ben Stiller,
Octavia Spence, Sofia Coppola, Damian Chazelle, Jason Momoa, Jennifer Garner, Jennifer Aniston, Reese Witherspoon ฯลฯ และปัจจุบันรายการจำนวนมากได้ผลิตแล้วและพร้อมออกอากาศตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงของปีนี้ เช่น สารคดีที่ผลิตโดย Oprah Winfrey, รายการซีรีส์นิยายวิทยาศาสตร์จากหนังสือ “Amazing Stories” ที่จะถูกนำมาสร้างใหม่โดยมี Steven Spielberg เป็นผู้อำนวยการสร้าง, ซีรีส์สร้างจากนิยายวิทยาศาสตร์คลาสสิกเรื่องยาวชุด Foundation ของนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลก Isaac Asimov, รายการดราม่า “The Morning Show" ที่นำแสดงโดยดาราชั้นนำของฮอลลีวู้ด Jennifer Aniston และ Reese Witherspoon, รายการ Sesame Street’s Big Bird ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม Apple ยังไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอพ Apple TV+ และค่าบริการสำหรับสมาชิก
แต่เมื่อเริ่มให้บริการ Apple TV+ จะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวรายหนึ่งของผู้นำในตลาดทีวีสตรีมมิ่งอย่าง Netflixอย่างแน่นอน เมื่อพิจารณาจากการลงทุนเริ่มต้นไม่น้อยกว่าสองพันล้านดอลลาร์ของ Apple ในฮอลลีวู้ด (และเชื่อว่าจะลงทุนเพิ่มอย่างต่อเนื่อง) รวมทั้งจำนวนและศักยภาพของบุคลากรฮอลลีวู้ดที่ถูกดึงเข้ามาร่วมผลิตรายการให้กับ Apple TV+ และรวมทั้งศักยภาพในการเข้าถึงผู้ชมที่เป็นผู้ใช้ Devices ของ Apple อย่าง iPhone, iPad, Mac ในกลุ่มที่สนใจใช้บริการนี้ก็น่าจะร่วมๆ หนึ่งพันล้านรายทั่วโลก ถ้าผู้ใช้ Devices ของ Apple เหล่านี้สมัครสมาชิกเพื่อใช้บริการ Apple TV+ จะทำให้เป็นบริการทีวีสตรีมมิ่งที่มีสมาชิกมากที่สุดในโลก จะทิ้งห่าง Netflix หรือแม้แต่ Disney ที่จะเปิดตัวบริการทีวีสตรีมมิ่งในอีกไม่นานนี้มากทีเดียว ทั้งนี้หมายถึงว่ารายการต่างๆ ของ Apple TV+ ต้องสามารถตรึงผู้ชมไว้ได้อย่างเหนียวแน่นด้วย