ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้เราอยู่ในยุคที่คนรุ่นใหม่อย่าง GenY GenZ อยากเป็นเจ้าของธุรกิจกันหมด แทบไม่มีใครอยากเป็นพนักงานประจำกินเงินเดือนสูงๆ อีกต่อไป หรือต่อให้เป็นพนักงานประจำอยู่ก็คิดที่จะทำธุรกิจควบคู่กันไปด้วย
เราอยู่ในยุคที่การหาความรู้สามารถทำได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว มีคอร์สสัมมนาเรื่องธุรกิจเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด ซึ่งค่าใช้จ่ายแพงกว่าหลักสูตรปริญญาโทในมหาวิทยาลัยอีก
ยุคที่กูรูธุรกิจหรือโค้ชทางออนไลน์เกิดขึ้นเต็มไปหมดซึ่งบางคนอาจไม่เคยทำธุรกิจจริงๆจังด้วยซ้ำ
ยุคที่ TV หรือโซเชียลมีเดียมีรายการที่พูดถึงเกี่ยวกับธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยส่วนใหญ่มักเน้นถึงในเรื่องของความสำเร็จ โดยพยายามชูตัวเลขยอดขาย คืนทุนเร็ว จำนวนสาขาที่มาก หรือ พูดถึงเจ้าของที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุน้อยๆ เพื่อเรียกเรตติ้งคนดูให้คนดูหันมาสนใจ
ซึ่งบ่อยครั้งทำให้คนที่ดูรู้สึกหึกเหิม คิดว่าธุรกิจนี้ดี เค้าทำได้เราก็น่าจะทำได้ และอยากเป็นอย่างเค้าเหล่านี้บ้าง โดยอาจลืมคิดไปว่าเค้าเหล่านี้ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากยอดภูเขาน้ำแข็ง คือเป็นแค่คนกลุ่มคนเพียงหยิบมือเดียวท่ามกลางคนทำธุรกิจอีกเป็นหมื่นเป็นแสนคน แต่ไม่มีใครพูดถึงระหว่างทางกว่าที่คนเหล่านี้จะฝ่าฟันมาจนถึงจุดนี้ได้
ทำให้หลายๆคนตัดสินใจลาออกจากงานประจำและนำเงินที่เก็บมาตลอดการทำงานมาลงกับธุรกิจโดยที่ไม่มีการทำการบ้านหรือหาความรู้ก่อน เพราะคิดว่าการทำธุรกิจไม่น่ายากขนาดนั้น ทุกคนคาดหวังการมีอิสระทางการเงินทางเวลาแบบที่หนังสือ Best Sellers ส่วนใหญ่พูดกันไว้และมักคิดถึงแต่เรื่องสวยงามของการทำธุรกิจ
“อยากเป็นแบบคนนี้ในทีวีบ้างจังทำงานแค่ไม่กี่วันต่อเดือนเอง”
“ธุรกิจนี้ดีจังเลยไม่กี่เดือนก็คืนทุนแล้ว”
“ออกจากงานประจำมาทำธุรกิจดีกว่า รวยกว่าตั้งเยอะ”
“ออกมาทำอะไรเองจะได้มีเวลาส่วนตัวเยอะขึ้น”
แต่ส่วนใหญ่นั้นมักจบลงด้วยการเจ๊งและสูญเสียเงินเก็บทั้งหมดภายในระยะเวลาไม่นาน สุดท้ายก็ต้องมาเริ่มนับหนึ่งกันใหม่ เพราะในโลกของธุรกิจมันไม่ได้สวยหรูเหมือนที่คุณเห็นภายนอก มันยังมีอีกด้านที่โหดร้ายที่คุณยังไม่เคยเห็น
ซึ่งในความจริงนั้นแทบไม่มีเจ้าของธุรกิจคนไหนประสบความสำเร็จโดยไม่พบเจออุปสรรคหรือความล้มเหลวเลย
คุณเม Afteryou กว่าจะเป็นร้าน Dessert café มูลค่ามหาศาลในตลาดหลักทรัพย์อย่างทุกวันนี้ก็เคยทำร้านอาหารทะเลเจ๊งมาก่อน
คุณหมู Ookbee หนึ่งในสตาร์พอัพที่ใหญ่ที่สุดในไทยก็เคยเจ๊งไป 150 ล้านบาทภายในเวลาแค่ 18 เดือน กับธุรกิจ E-commerce
คุณเหม็ง Santa Fe steak ร้านสเต็กที่ยอดขายเกือบสองพันล้านก็เคยทำร้านอาหารเจ๊งหลักร้อยล้านมาแล้ว
ไม่เว้นแต่เจ้าสัว-ธนินทร์ CP บุคคลที่รวยที่สุดในประเทศไทยก็เคยตัดสินใจผิดพลาดหลายครั้ง จนสูญเสียยอดขายหลายหมื่นล้านบาท
หรือแม้แต่กระทั่งตัวผมเอง ซึ่งถึงแม้จะยังเป็นแบรนด์เล็กๆ แต่กว่าที่จะมาถึงจุดนี้ได้ก็ผ่านการตัดสินใจที่ผิดพลาดหลายครั้งจนถึงขั้นสูญเสียเงินหลักหลายสิบล้านบาทมาแล้ว แค่ไม่มีใครรู้ ทุกคนจะมองเห็นแค่ในด้านดีๆว่าร้านขายดี ขยายสาขาได้เร็ว ธุรกิจต้องไปได้ดีแน่นอน
ซึ่งความผิดพลาดหรือความล้มเหลวที่บุคคลเหล่านี้พบเจอและผ่านมันมาได้ ถือเป็นขุมทรัพย์ทางการเรียนรู้ชั้นยอดให้กับเรา คนที่วันนึงฝันว่าอยากไปถึงจุดๆนั้นให้ได้เหมือนคนเหล่านี้บ้าง
นั่นจึงเป็นที่มาของ “โคตรเฟล” รายการที่จะสัมภาษณ์นักธุรกิจในเรื่องที่เฟลๆ โดยจะล้วงลึกไปถึงสาเหตุและที่มาของความล้มเหลวหรือการตัดสินใจที่ผิดพลาด และถอดบทเรียนว่าเค้าได้เรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์เหล่านั้นบ้าง
ซึ่ง! ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะทำออกมาในลักษณะบทสัมภาษณ์ คลิปวีดิโอ Podcast หรือ พ๊อกเกตบุ๊คดี และจะออกทางเพจไหนบ้าง
เรื่องโดย : ต่อ-ธนพงศ์ วงศ์ชินศรี ผู้ปลุกปั้นร้านเพนกวินกินชาบู