“ซันเดย์” อินชัวร์เทคสตาร์ทอัพ ประสบความสำเร็จในการระดมทุนซีรี่ส์ เอ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากนักลงทุนชั้นนำระดับโลกอย่าง “เวอร์เท็กซ์ เวนเจอร์ส เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย (Vertex Ventures SEA and India)” โดยเวอร์เท็กซ์ เวนเจอร์ส เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย มั่นใจโมเดลธุรกิจอินชัวร์เทคของซันเดย์เดินมาถูกทาง อีกทั้งยังมีกลุ่มประกันสนับสนุนโดยให้ความร่วมมือพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ผลักดันให้ซันเดย์เป็นบริษัทประกันภัยเต็มรูปแบบ สร้างนิยามใหม่ให้วงการประกันภัย ตอบรับเศรษฐกิจดิจิตอล วางเป้าหมายให้ประกันภัยเป็นสิ่งเข้าถึงง่ายสะดวกทุกที่ทุกเวลา
ซันเดย์ บริษัทอินชัวร์เทคสตาร์ตอัพของไทยเสนอนวัตกรรมบริการประกันภัยด้วยแพลตฟอร์มขายและให้บริการแบบครบวงจร สร้างจุดขายที่โดดเด่นด้วยการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และแมชชีนเลิร์นนิ่ง (Machine Learning) โดยนำข้อมูลความเสี่ยงมาวิเคราะห์และคำนวณเบี้ยประกันมากกว่าบริษัทประกันเจ้าอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ซันเดย์กำหนดราคาได้แม่นยำกว่าบริษัทประกันทั่วไป โดยกระบวนการทั้งหมดนี้เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ ซันเดย์ยังประเมินความเสี่ยงแบบรายบุคคล เพื่อมอบแผนประกันภัยที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย ในราคาที่เหมาะสม ตั้งแต่บริษัทเปิดตัวมา ซันเดย์ได้ออกผลิตภัณฑ์ประกันมากกว่าหนึ่งร้อยรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในตลาด เพื่อให้ครอบคลุมความเสี่ยงเฉพาะกลุ่ม ตั้งแต่ขยายเวลารับประกันอะไหล่รถยนต์ ประกันเที่ยวบินล่าช้า ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อนกว่า เช่น ประกันรถยนต์และสุขภาพเพื่อกลุ่มลูกค้าที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
ผลิตภัณฑ์และบริการสินไหมของบริษัทได้รับการออกแบบมาเพื่อให้รองรับระบบของพาร์ตเนอร์ธุรกิจ ซึ่งมีทั้งธุรกิจชั้นนำในแวดวงรถยนต์ การสื่อสาร ค้าปลีกและการท่องเที่ยว คู่ขนานไปกับการขยายธุรกิจของบริษัทเองที่มุ่งเจาะตลาดเอสเอ็มอีในประเทศผ่านแผนประกันสุขภาพกลุ่มและระบบการเรียกร้องสินไหมแบบเรียลไทม์ เพื่อเจาะตลาดเอสเอ็มอีที่มีจำนวน 3 ล้านรายและมีพนักงานกว่า 10 ล้านคน ซึ่งสร้างรายได้กว่าร้อยละ 36 ของจีดีพีประเทศไทย
ทั้งนี้ ปัญหาของธุรกิจประกันภัยปัจจุบันคือการเป็นเพียงผู้รวบรวมความเสี่ยงและใช้การคิดคำนวณความเสี่ยงแบบเดิม ซึ่งไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างตลอดเวลาได้อีกแล้ว นอกจากนี้ การประเมินความเสี่ยงอย่างแม่นยำเป็นรายบุคคลนี้เอง ทำให้บริษัทสามารถดีไซน์ผลิตภัณฑ์ประกันให้เหมาะกับผู้บริโภคแต่ละคน เพื่อตอบสนองทั้งไลฟ์สไตล์และราคาที่แต่ละคนรับได้ โดยผู้บริโภคสามารถรับบริการผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน