มองว่าอะไรคือเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นในอุตสาหกรรม
บิ้วตี้มีความหลากหลายมาก เราไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องภายนอก แต่เรื่องของสุขภาพและความงามคือองค์รวมภายใน เราเชื่อตั้งแต่วันแรกเลยว่า ถ้าเราคิดดี นั่นก็คือความงาม ภายนอกจะเป็นยังไงค่อยมาว่ากัน ซึ่งมันจะส่งผลกันเอง
เทรนด์ที่จะเกิดขึ้นเรามองว่าน่าจะเป็นเรื่องของ Wellness ที่จะมีความชัดเจนขึ้น ทุกคนจะพูดถึงเรื่องสุขภาพองค์รวมมากขึ้น เรื่องบิ้วตี้จะไม่หยุดแค่ภายนอก แต่ต้องรวมถึง Holistic
ต่อมาคือ ความพรีเมียม ความแพงจะมากขึ้น ผู้บริโภคมองหาสิ่งของที่มีคุณภาพ และยอมที่จ่ายเงินมากขึ้นกับเรื่องสุขภาพและความงาม ถ้าตอบโจทย์ลูกค้าจริงๆ
อีกหนึ่งเรื่องที่จะเห็นคือ Inclusive มากขึ้น ต่อไปจะมีความหลากหลายของฟอร์มในตลาดบิวตี้ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นลุคแบบนี้เท่านั้น ยกตัวอย่างเรื่องของความสวยคือขาว หุ่นที่ผอมคือหุ่นดี เรื่องเหล่านี้จะน้อยลงเรื่อยๆ
อีกเทรนด์ที่เห็นมากขึ้นคือ คลีนบิวตี้ ซึ่งเป็นอีกขั้นของออร์แกนิกส์หรือสินค้าจากธรรมชาติ พูดง่ายๆ ก็คือส่วนผสมที่มีอยู่ต้องให้ประโยชน์และสร้างผลลัพธ์ได้จริงในขณะเดียวกันต้องไม่มีส่วนผสมที่เป็นเคมีซึ่งมีผลเสียต่อร่างกาย
ในอุตสาหกรรมบางครั้งเราพูดถึงแต่ส่วนดี ว่าใช้แล้วดียังกับส่วนนั้น ส่วนนี้ แต่เราไม่ได้พูดถึงส่วนผสมที่เหลือว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งเราสร้าง Zerolist ขึ้นมา คือวัตถุดิบกว่า 2,300 รายการ ที่ผู้บริโภคเห็นได้ทั่วไป ที่เราเชื่อว่ามันทำให้เกิดอันตราย เกิดการระคายเคืองในระยะยาว เราก็เอามาลงในลิสต์นี้เพื่อที่จะไม่นำมาใช้ในการผลิตของปัญญ์ปุริ แต่ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ยาก แต่ก็สามารถทำได้จริงและเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภค
ส่วนการป้องกันเพื่อให้เกิดโรคต่างๆ ไม่ใช่เทรนด์ แต่เป็นพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปแล้ว ทำให้เราเห็นภาพชัดเจนว่าสุขภาพและความงามกลายเป็นธุรกิจที่มาแรง และประเทศไทยก็ทำเรื่องนี้ได้ดี ถ้ามีการสนับสนุนจากส่วนต่างๆ มากขึ้นเชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้ให้กับประเทศเลยก็ว่าได้