แบรนด์และนักการตลาดควรปรับตัวอย่างไร
จากแนวโน้มที่กล่าวมานี้ HILL ASEAN แนะนำให้ผู้ประกอบการธุรกิจและแบรนด์เตรียมพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงด้วยการพัฒนาใน 3 ด้าน คือ
-
Purpose Branding: กำหนดนิยามคุณค่าของแบรนด์ ชัดเจนเหมาะกับสถานการณ์
เมื่อมี Assistive Media เป็นตัวช่วยนำเสนอแบรนด์ “อันดับ 1” ในแง่ต่างๆ เช่น แบรนด์อันดับ 1 ในใจ, แบรนด์ที่ถูกค้นหาเป็นอันดับ 1, แบรนด์ที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 หรือแบรนด์ที่มีราคาถูกที่สุด ฯลฯ จะทำให้การค้นหาข้อมูลของผู้บริโภคเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์อื่นๆ น้อยลง สิ่งที่แบรนด์ต้องทำคือ ให้คำนิยามที่ชัดเจนว่าผลิตภัณฑ์ของตนนั้นจะเป็นประโยชน์และจำเป็นต่อชีวิตประจำวันของผู้บริโภคในเวลาหรือสถานการณ์ไหน เพื่อที่จะเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ที่ผู้บริโภคต้องการ
-
Life Solutions: พัฒนา Solution ครบวงจร ตอบโจทย์ทุกปัญหาผู้บริโภค
เพื่อที่จะเป็นสินค้าที่ถูกเลือกจากผู้บริโภคและ Assistive Media แบรนด์ต่างๆ ต้องทำมากกว่าการผลิตและขายสินค้า นั่นคือการนำเสนอ “life solutions” หรือสินค้าและบริการที่พัฒนาให้สนองตอบต่อความต้องการของผู้บริโภค โดยผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ อาจจะต้องร่วมมือกันสร้าง ecosystem หรือระบบนิเวศ online ขนาดใหญ่ เพื่อนำเสนอโซลูชันให้แก่ผู้บริโภคได้อย่างครบวงจร นอกจากนี้ ผู้ประกอบการอาจต้องพิจารณาด้วยว่าโซลูชันที่พัฒนาขึ้นมานั้นจะช่วยแก้ปัญหาตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างไรบ้าง
-
Real-Time Marketing: นำเสนอคอนเทนต์โดนใจ ฉับไวตรงสถานการณ์
แนวทางการทำการตลาดแบบ Real-time marketing ที่เน้นการสร้างคอนเทนต์การสื่อสาร ซึ่งสามารถตอบสนองต่อความสนใจของผู้บริโภคแต่ละคนได้อย่างทันท่วงที จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ในการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย อาจต้องใช้ทั้งข้อมูลที่แบรนด์มีอยู่แล้วร่วมกับข้อมูลจาก Me Data โดยการทำตลาดแบบนี้จะช่วยเพิ่มปฏิสัมพันธ์ระหว่าง แบรนด์กับผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ การใช้ประโยชน์จาก Me Data และการสร้างฐานข้อมูลขึ้นมาเป็นของแบรนด์เอง จึงเป็นภารกิจเร่งด่วนที่ผู้ประกอบการธุรกิจควรทำ
ดาวน์โหลดข้อมูลและอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.hillasean.com/forum_2019/en/