David Taylor, CEO ของ P&G ยักษ์ใหญ่สินค้าคอนซูเมอร์ของโลก กำลังกลัวว่าความตึงเครียดในด้านการค้าทั่วโลก จะช่วยลดการใช้จ่ายในการซื้อสินค้าแบรนด์ต่างๆ ของผู้บริโภค
เขาบอกกับสำนักข่าว CNBC ว่า "สิ่งที่ผมกังวลมากที่สุดในช่วงการเกิดสงครามการค้า คือ การทำลายความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์สินค้าอเมริกัน"
ความคิดเห็นของเขาเกิดขึ้นในช่วงที่มีการเจรจาต่อรองทางการค้าระหว่างสหรัฐ ที่เป็นฐานของ P&G และจีน ที่ปัจจุบัน P&G ให้บริการผู้บริโภคจีนมากกว่า 1 พันล้านคน ด้วยผลิตภัณฑ์ของ P&G 20 แบรนด์
Taylor กล่าวว่า "มันไม่ดีเลย ผมเชื่อเช่นนั้น และบริษัทของเราก็เชื่อถือในเรื่องของการค้าเสรีและเปิดกว้าง เราทั้งหมดลงเรือลำเดียวกัน"
เขากล่าวต่อว่า "มันจะดีสำหรับเศรษฐกิจโลก ดีสำหรับประเทศของเรา ดีสำหรับประเทศจีน สำหรับการแก้ปัญหานี้อย่างสร้างสรรค์ และเกิดประสิทธิผล"
ดังที่ CNBC ได้เคยเสนอเป็นข่าวไว้ว่า P&G ได้ปรับขึ้นราคาผลิตภัณฑ์ของตนในสหรัฐ ได้แก่ Pampers, Bounty และ Charmin เนื่องจากต้นทุนสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มขึ้น
สัปดาห์นี้ P&G ได้ประกาศแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจประมาณ 6 หน่วยธุรกิจ คือ หน่วยธุรกิจความงาม, หน่วยธุรกิจทารกและการดูแลผู้หญิง, หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักผ้า และ Home Care, หน่วยธุรกิจ Family Care และ Ventures, หน่วยธุรกิจการเสริมสวย และหน่วยธุรกิจ Health Care - ซึ่งแต่ละหน่วยธุรกิจจะมี Chief Executive ของตัวเอง
Cr : The Drum