พุฒิพงศ์ อธิบายกับเราเพิ่มเติมว่า สายการบินบางกอกแอร์เวย์สวางตัวเองไว้ว่าจะสร้างการรับรู้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้นเพื่อทำให้ได้รู้จักและเข้าถึงแบรนด์ของเราได้ตั้งเเต่ต้นซึ่งจะเป็นการวางรากฐานให้แบรนด์เข้าไปเป็นตัวเลือกของลูกค้ากลุ่มนี้
รวมถึงขยายลูกค้าในจังหวัดที่เรามีสนามบินเป็นของตัวเองเช่นสมุยตราดและสุโขทัย เป็นการดึงจุดเเข็งของบางกอกแอร์เวย์ส ออกมาช่วยให้เป้าหมายของแบรนด์มีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ต่อยอดไปสู่การทำตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV เพื่อผลักดันให้ชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะจุดหมายปลายทางทางภาคใต้ที่เป็นจุดขายของประเทศไทยและเป็นเส้นทางบินที่มีความสำคัญของทางสายการบินโดยชูจุดเด่นในเรื่องของการบริการรวมทั้งความสะดวกสบายในการต่อเที่ยวบินอย่างหลากหลายผ่านเครือข่ายเส้นทางบิน
ทั้งหมดถูกเชื่อมโยงสู่เป้าหมายเป็นสายการบินชั้นนำในเอเชียโดยทางสายการบินจะเน้นการทำกิจกรรมต่างๆหลายรูปแบบทั้งกีฬาไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลหรือการวิ่งมาราธอนเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้โดยสารและสร้างการรับรู้ในตัวแบรนด์ให้เข้าถึงได้ง่ายกับคนทุกกลุ่ม
นับว่าเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นสินค้า บริการ กิจกรรมต่างๆ เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะมาช่วยต่อเติมให้แบรนด์บางกอกแอร์เวย์ส มีชีวิตและเข้าใกล้คนไปเรื่อยๆ
“ธรรมชาติของการสร้าง Storytelling นั้นก็คือเรื่องราวที่เป็นความจริงซึ่งจะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อได้รับการพิสูจน์ผ่านกาลเวลามาระดับหนึ่งแล้วองค์ประกอบที่ทำให้สายการบินบางกอกแอร์เวย์สมาถึงทุกวันนี้ได้นั้นคือการกล้าที่จะคิดต่างและการให้ความสำคัญกับประสบการณ์การเดินทางที่มากกว่า
อย่างการมีสนามบินเป็นของตัวเองเพื่อรองรับเส้นทางบินใหม่ๆซึ่งกว่าที่บางกอกแอร์เวย์สจะสามารถเดินทางมาจนถึงจุดนี้ได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายต้องใช้เวลาและก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นสิ่งที่ทำให้คนรู้จักและจำแบรนด์ของเราได้มีความรู้สึกร่วมกับเราผ่าน Storytelling ในมิติต่างๆ”