ในยุคที่โทรศัพท์มือถือกลายเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตประจำวันส่งผลให้พฤติกรรมการบริโภคสื่อในปัจจุบันเปลี่ยนไป คอนเทนท์วิดีโอสั้นจึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่แบรนด์ต่างๆ ใช้สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย ปัจจุบัน 9 ใน 10 บริษัท หันมาใช้วิดีโอในการทำการตลาด และภายในปีพ.ศ. 2565 การใช้งานอินเทอร์เน็ตเพื่อรับชมวิดีโอจะเพิ่มสูงขึ้นเป็นร้อยละ 82 ของการใช้งานทั้งหมด” ศุภวัฒน์ พีรานนท์ Head of Music ของ TikTokกล่าว
TikTok Tickets เป็นโปรแกรมสร้างสรรค์ความบันเทิงแบบครบวงจร โดย TikTok มุ่งมั่นในการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรผู้นำด้านความบันเทิงต่างๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายของคอนเทนท์เอ็นเตอร์เทนเมนท์บนแพลตฟอร์ม พร้อมกันนี้ยังมีการคืนความสุขให้กับแฟนๆ ผู้ใช้ TikTok ด้วยการมอบบัตรรับชมความบันเทิงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์และคอนเสิร์ตชื่อดังมากมาย ในช่วงแรก TikTok ได้ร่วมมือกับBEC Tero, Major Cineplex, Neon Festivalและ Ticketmelonเพื่อมอบตั๋วชม ภาพยนตร์และคอนเสิร์ตยอดนิยมกว่า 500 ใบ อาทิ ตั๋วชมคอนเสิร์ตMumford & Sons, GreendayและNeon Countdownโดยโปรแกรม TikTok Tickets เริ่มตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน จนถึง 31 ธันวาคม 2562
โปรแกรม TikTok Tickets เปิดโอกาสให้พันธมิตรธุรกิจของเราได้รับประโยชน์จากจุดแข็งของ TikTok ในฐานะแพลตฟอร์มเชิงสร้างสรรค์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มคนรุ่นใหม่ เพื่อให้แบรนด์ต่างๆ สามารถเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มนี้ทั้งยังสามารถเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ผู้ใช้ TikTok นับล้านๆ คนในประเทศไทย สำหรับในส่วนของ TikTok เอง เราก็ได้เพิ่มความหลากหลายของคอนเทนท์ความบันเทิงบนแพลตฟอร์มให้มีความหลากหลายเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมความบันเทิงในประเทศไทยในลำดับต่อไป” ศุภวัฒน์ พีรานนท์ Head of Music ของ TikTokกล่าวเสริม
ก่อนหน้านี้ TikTok ได้มีการจับมือเป็นพันธมิตรกับผู้นำในธุรกิจความบันเทิงมากมายในประเทศไทย อาทิLive Nation, LINE TV, Big Mountain Music Festival และS2O Music Festival
TikTok ใช้งานได้ใน 154 ประเทศ และรองรับถึง 75 ภาษา เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์และรับชม เนื้อหาตามความนิยมของแต่ละประเทศ