สีหนาท ล่ำซำ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Payment Product Solution and Management ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า การยืนยันตัวตนด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ (Biometrics) ได้เข้ามามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในภาคการเงินการธนาคาร ขณะเดียวกันภาคธนาคารได้เชื่อมโยงระบบการดำเนินธุรกิจกับพันธมิตรมากขึ้น ประกอบกับภาครัฐเองได้ดำเนินโครงการการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล (National Digital ID : NDID) ซึ่งเป็นระบบกลางในการยืนยันตัวตนทางดิจิทัลของประเทศ ซึ่งธนาคารไทยพาณิชย์เองได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าวด้วย ดังนั้นงาน Bangkok Fintech Fair 2019 จึงเป็นการเปิดโอกาสให้ภาคการเงินการธนาคารได้นำเสนอเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการยืนยันตัวตนทางดิจิทัล ซึ่งในส่วนของธนาคารไทยพาณิชย์นั้น ได้นำเสนอเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนด้วยการสแกนเส้นเลือดในฝ่ามือ หรือ Palm Vein ซึ่งผู้เข้าชมงานจะได้รับประสบการณ์การทดลองใช้งานบริการนี้ ในบูธธนาคารไทยพาณิย์ ภายในงาน Bangkok Fintech Fair 2019 : Collabo ration for the Future of Finance ที่จัดขึ้น ณ อาคารศูนย์การเรียนรู้ ธนาคารแห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 18-19 กรกฎาคม 2562
สีหนาท กล่าวว่า ธนาคารได้นำเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนด้วยการสแกนเส้นเลือดในฝ่ามือ (Palm Vein) ภายใต้เครื่องหมายการค้า Fujitsu Palm Secure™ มาแสดงในงานดังกล่าว เนื่องจากต้องการนำเสนอความแตกต่างของวิธีการยืนยันตัวตนด้วยการใช้ Palm Vein เมื่อเปรียบเทียบกับการยืนยันตัวตนด้วยวิธีอื่นๆ อาทิ การจดจำใบหน้า (Facial Recognition) หรือ การสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint) เป็นต้น ทั้งนี้ Palm Vein นับเป็นเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนที่มีการใช้อย่างแพร่หลายในประเทศต่างๆ อาทิ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ที่ใช้รูปแบบของการชำระเงินอัตโนมัติด้วยตัวเอง (self-checkout) ในห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ หลังการเลือกซื้อสินค้าสิ้นสุด เพียงลูกค้าสแกนฝ่ามือเหนือ Palm Vein Sensor นั่นคืออีกทางเลือกของการชำระเงิน สามารถทดแทนการใช้บัตรเครดิต หรือการสแกนด้วยคิวอาร์โค้ดได้เช่นกัน