สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานใหม่อาร์เอส สร้างบนพื้นที่กว่า 20 ไร่ในย่านเกษตรนวมินทร์นั้น บริษัทฯมีแผนจะย้ายเข้าไปอยู่ในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ พร้อมมีแผนปรับนโยบายการทำงานของทุกทีมในองค์กรใหม่ ปรับโลโก้ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับการย้ายหมวดธุรกิจและการเติบโตของบริษัทฯในอนาคตด้วย
โดยบริษัทฯมีเป้าหมายเพิ่มจำนวน Telesales ที่มีความชำนาญและเชี่ยวชาญ เพื่อรองรับการซื้อซ้ำของผู้บริโภค รวมทั้งให้บริการคำปรึกษาแนะนำธุรกิจตลอด24ชั่วโมงเป็น 1,000 คน จากปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 500 คน นอกจากนี้ ปี 2562 บริษัทฯ จะมุ่งสร้างและขยายทีม ไลฟ์สตาร์ บิส“LIFESTAR BIZ” หรือตัวแทนขยตรงจากทั่วประเทศเพิ่ม พร้อมบริหารฐานข้อมูลขนาดใหญ่ Big Data ซึ่งจะเพิ่มเป็น 1.8 ล้านรายจาก 1.2 ล้านรายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อนำมาวิเคราะห์ในเชิงลึก พัฒนาและนำเสนอสินค้าให้ตรงความต้องการของลูกค้าต่อไป และสร้างให้เกิดการซื้อซ้ำในอนาคต นายสุรชัย กล่าวต่อว่า อีกปัจจัยสนับสนุนที่จะทำให้รายได้รวมบริษัทฯสิ้นปี 2562 แตะ 5,000 ล้านบาทได้ตามเป้า นอกจากธุรกิจ MPC ที่เติบโตก้าวกระโดดแล้ว ยังมีเม็ดเงินโฆษณาที่เพิ่มขึ้น 7% ด้วย รวมถึงผลประกอบการช่อง 8 ที่กลับมามีกำไร และ gross profit margin ขยายตัวเพิ่มเป็น 49.0% จาก 42.4%
“อาร์เอสเชื่อมั่นในกลยุทธ์และแผนการดำเนินธุรกิจว่ามาถูกทางแล้วจากปีแรกที่กระโดดเข้ามาทำธุรกิจ MPC สร้างยอดขายหลักร้อยล้านบาท และเมื่อเข้าปีที่ 4 ทำรายได้แตะ 2000 ล้านบาท สำหรับในปี2562 ซึ่งเป็นปีที่ 5 ของการทำธุรกิจ สัดส่วนของรายได้จากธุรกิจพาณิชย์มีสัดส่วนที่สูงกว่ารายได้จากธุรกิจสื่อไปแล้วและเมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา บริษัทถือว่าได้ก้าวเข้าสู่ “ธุรกิจพาณิชย์และค้าปลีก” อย่างสมบูรณ์แบบ และมีการย้ายหมวดการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไปเรียบร้อยแล้ว จากแผนธุรกิจที่สร้างการเติบโตอย่างชัดเจน ทั้งแนวราบและแนวตั้ง ทำให้บริษัทฯ ต้องปรับรายได้ประมาณการรวมปี 2562 ใหม่
เป็น 5,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% พร้อมคาดหวังว่ารายได้ของธุรกิจ MPC จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น40เปอร์เซนต์ ในปีนี้ด้วย โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากรายได้ของธุรกิจ MPC ที่ทำสถิติสูงสุดใหม่จากการ ขยายแพลตฟอร์มการจำหน่ายสินค้าเจาะเข้าถึงผู้บริโภคมากที่สุด ทั้งจากช่อง 8, call1781,ช่องไทยรัฐทีวี T Shopping 02-117-3232, ช่อง 2, ช่องสบายดีทีวี เลข 141, ช่องเพลินทีวี และวิทยุคูลฟาเรนไฮต์ ซึ่งสามารถเข้าถึงผู้ชมได้มากกว่า20ล้านคน นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์ www.shop1781.com, LINE@shop1781, LINE@COOLanythingรวมถึงผ่าน LifestarBIZหรือตัวแทนขายตรง และห้างค้าปลีก Modern Trade และร้านค้าปลีกทั่วประเทศด้วย”ทั้งนี้ การเพิ่มความหลากหลายให้สินค้าและบริการถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการเดินหน้าพัฒนาสินค้าใหม่และบริการกว่า 200 รายการ(SKU) หลังจับมือกับหน่วยงานวิจัยชั้นนำระดับโลก ผลิตสินค้าที่เป็นสุดยอดนวัตกรรม เพื่อมาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า รวมถึงการจับมือกับคู่ค้าเพิ่มสุดยอดสินค้าคุณภาพแบรนด์ชั้นนำอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งปัจจุบันแบ่งเป็นกลุ่มสินค้าสุขภาพและความงาม (Health and Beauty) 80% ได้แก่ กลุ่มสกินแคร์ภายใต้แบรนด์มาจีค (Magique), กลุ่มแฮร์แคร์ภายใต้แบรนด์รีไวฟ์ (Revive) และกลุ่มอาหารเสริมภายใต้แบรนด์ (S.O.M) ,กลุ่มสินค้าเครื่องใช้ภายในบ้านและไลฟ์สไตล์ (Home&Lifestyle) 15% และกลุ่มเครื่องประดับและความเชื่อ (Accessories) และอื่นๆ 5%