ด้านกลยุทธ์การทำตลาด เพื่อเป็นการฉลองยอดขาย 2 ล้านซองทั่วโลกของเถ้าแก่น้อยสาหร่ายเทมปุระไข่เค็ม บริษัทได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ เถ้าแก่น้อยสาหร่ายเทมปุระไข่เค็ม ขนาด 25 กรัม ราคา 25 บาท เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2562 ซึ่งในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขายเถ้าแก่น้อยสาหร่ายเทมปุระไข่เค็มในประเทศไทยเป็น 50 ล้านบาท ส่งผลให้เถ้าแก่น้อยเทมปุระ มีการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 183%
อิทธิพัทธ์ เชื่อว่ากระแสไข่เค็มฟีเวอร์จะยังคงมีต่อเนื่องตลอดทั้งปี จากจุดเด่นเรื่องรสชาติ และความคุ้นเคยของคนไทย ขณะเดียวกันคาดว่าจะมีสินค้าใหม่ที่จับคู่กับไข่เค็มออกวางจำหน่ายในตลาดเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับเถ้าแก่น้อยที่พัฒนาและวางจำหน่ายเถ้าแก่น้อยทินเท็น ปลาหมึกไข่เค็มเป็นรายแรกในเมืองไทย ภายใต้สโลแกน “หมึกเต็มแผ่น ไข่เค็มเต็มคำ” ออกวางจำหน่ายเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งพบว่า ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมียอดขายสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ทำให้บริษัทมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น เพื่อก้าวสู่บริษัทนวัตกรรมอาหาร และนำเสนอสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
สำหรับตลาดสาหร่ายปรุงรสในปี 2561 มีมูลค่าตลาดรวม 3,032 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 5.2 โดยมีแบรนด์ “เถ้าแก่น้อย” เป็นผู้นำตลาด ด้วยส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 69 เติบโตร้อยละ 10 ประกอบไปด้วยสาหร่ายประเภททอด อบ ย่าง และเทมปุระ ซึ่งสาหร่ายเทมปุระ ถือเป็นกลุ่มน้องใหม่ของตลาดสาหร่ายมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 1 ซึ่งในปีที่ผ่านมาพบว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศทำให้มีการเติบโตร้อยละ 134 เมื่อเทียบกับปี 2560 อย่างไรก็ดี เถ้าแก่น้อยตั้งใจรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง โดย คาดว่าในปี 2562 เถ้าแก่น้อยจะสามารถสร้างยอดขายของสาหร่ายเทมปุระในประเทศไทยได้ 80 ล้านบาท